ปีนี้ราคาน้ำมันจะไปต่อหรือไม่ ?

0
290
ปีนี้ราคาน้ำมันจะไปต่อหรือไม่?
ปลายปีที่แล้วราคาน้ำมันพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบสามเดือน โดยน้ำมันดิบ WTI ปิดสิ้นปีไปที่ 61 $/bbl. และ Brent ปิดไปที่ 66 $/bbl. พอๆกับ Dubai ซึ่งปิดไปที่ 67.26 $/bbl. แต่ราคาสูงสุดจริงๆระหว่างการซื้อขายของน้ำมันดิบ Brent พุ่งขึ้นไปเกือบ 69 $/bbl.
ปีค.ศ. 2019 ถือเป็นปีที่ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 ปี นับจากปี ค.ศ. 2016 เป็นต้นมา โดย WTI +34% และ Brent +23% จากปีค.ศ. 2018 แต่ก็เป็นปีที่ราคามีความผันผวนขึ้นลงตลอดทั้งปี
โดยในช่วงต้นปีราคาปรับตัวสูงขึ้นจากการตัดสินใจต่ออายุข้อตกลงลดการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ของกลุ่มโอเปกและพันธมิตรที่นำโดยรัสเซีย ราคาไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดในเดือนเมษายน จากการที่สหรัฐฯยุติการผ่อนผันมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันจากอิหร่าน
จากนั้นราคาก็เริ่มลดลงจากพิษของสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ โดยราคาได้ลดลงอย่างรุนแรงในวันเดียวมากที่สุดในรอบ 4 ปี ในวันที่ 1 สิงหาคม เมื่อประธานาธิบดี Donald Trump แห่งสหรัฐฯขู่ว่าจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีกระลอกหนึ่ง
แต่ราคาก็กลับมาพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบมากกว่าหนึ่งทศวรรษในเดือนกันยายน เมื่อโครงสร้างพื้นฐานด้านการผลิตน้ำมันที่สำคัญของซาอุดิอาระเบียถูกโดรนไม่ปรากฏสัญชาติโจมตีได้รับความเสียหาย จนการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียลดลงไปมากกว่าครึ่ง แต่ราคาก็ค่อยๆลดระดับลงหลังจากซาอุดิอาระเบียสามารถซ่อมแซมโรงแปรรูปน้ำมันที่เสียหายและกลับมาผลิตน้ำมันได้เหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว
ราคาน้ำมันกลับมาปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายปี เมื่อกลุ่มโอเปกและพันธมิตร ซึ่งเรียกว่ากลุ่ม OPEC+ ตัดสินใจต่ออายุข้อตกลงลดการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วันออกไปอีกจนถึง 31 มี.ค. ปีนี้ และลดเพิ่มอีก 5 แสนบาร์เรล/วัน เริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. เป็นต้นไป รวมทั้งซาอุดิอาระเบียยังสมัครใจผลิตน้ำมันต่ำกว่าโควต้าที่ได้รับอีก 4 แสนบาร์เรล/วัน รวมทั้งสิ้น 2.1 ล้านบาร์เรล/วัน
ประกอบกับสหรัฐฯและจีนสามารถทำความตกลงทางการค้าตามข้อตกลง Phase 1 ได้ และมีกำหนดการเซ็นข้อตกลงร่วมกันในวันที่ 15 ม.ค.นี้ที่ทำเนียบขาว จึงส่งผลให้นักลงทุน ผู้จัดการกองทุนการเงิน และกองทุนป้องกันความเสี่ยงต่างๆ มีความมั่นใจและมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อภาพรวมของการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกและความต้องการน้ำมัน จึงพากันเข้ามาลงทุนในสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้ามากขึ้น
คำถามก็คือ แล้วราคาน้ำมันในปีนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป จะขึ้นต่อหรือจะปรับตัวลดลง แน่นอนว่าคงไม่มีใครตอบได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ แต่ผมคิดว่าเราสามารถประเมินได้จากปัจจัยต่อไปนี้ คือ
1. การลดการผลิตของกลุ่มโอเปกและพันธมิตรจะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ (Compliance Rate) จะมีสมาชิกผลิตเกินโควตาที่ได้รับหรือไม่ โดยเฉพาะรัสเซียและอิรัก
2. ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ภายหลังการเซ็นข้อตกลง Phase 1 จะสามารถยุติสงครามทางการค้าที่มีต่อกันได้หรือไม่ จะมีความก้าวหน้าในการเจรจา Phase 2&3 หรือไม่
3. การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน เพราะจะส่งผลถึงความต้องการน้ำมัน ซึ่งปีนี้ IEA คาดว่าจะขยายตัวต่ำมากเพียง 1 ล้านบาร์เรล/วันเท่านั้น
4. การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯจะชะลอตัวลงหรือไม่ หรือจะยังคงผลิตเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดต่อไป
5. ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่สามารถทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นได้แบบเดียวกับเหตุการณ์ที่ซาอุดิอาระเบียถูกโจมตีเมื่อปีที่แล้ว หรือการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
สรุปแล้วผมคาดว่าราคาน้ำมันปีนี้น่าจะไม่ผันผวนเท่ากับปีที่แล้ว แต่จะวิ่งขึ้นลงอยู่ระหว่าง 60-70 $/bbl.
ถ้าผิดจากนี้ก็อย่าว่ากันนะครับ !!!
มนูญ ศิริวรรณ
3 ม.ค. 2563
สามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่ : https://bit.ly/37ZiQzX