พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเล็งเห็นความสำคัญของพลังงานเชื้อเพลิงที่อนาคตอาจเกิดภาวะขาดแคลนน้ำมัน ในขณะที่น้ำมันดิบในตลาดโลกมีราคาสูงขึ้น ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล พระองค์จึงมีพระราชดำริให้นำอ้อยมาแปรรูปผลิตเป็นแอลกอฮอล์ เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง โดยพระราชทานเงินทุนวิจัย และทรงคิดค้นศึกษาวิจัยพัฒนาร่วมกับคณะนักวิจัย จนสามารถผลิตแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 95% ได้เป็นผลสำเร็จ โดยมีชื่อเรียกว่า “เอทานอล” จากนั้น ได้มีการพัฒนากระบวนการต่างๆ จนสามารถผลิต “น้ำมันแก๊สโซฮอล์” ซึ่งกลายเป็นพลังงานทดแทนที่สามารถนำมาใช้งานกับยานพาหนะได้จริง จึงช่วยลดการนำเข้าน้ำมันลงได้ส่วนหนึ่ง ทั้งยังช่วยลดมลภาวะเป็นพิษในอากาศได้อีกด้วย
นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงศึกษาวิจัย “ดีโซฮอล์” และทรงทดลองนำน้ำมันปาล์มมาใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล จากการทดสอบพบว่า น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 100% สามารถใช้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล จนเป็นผลสำเร็จ โดยมีชื่อว่า “ไบโอดีเซล” และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มีการยื่นจดสิทธิบัตร “การใช้น้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ดีเซล” โดยเป็นโครงการที่ได้รับเหรียญทองประกาศนียบัตรสดุดีเทิดพระเกียรติคุณ พร้อมถ้วยรางวัล ในงานนิทรรศการสิ่งประดิษฐ์นานาชาติ “Brussels Eureka 2001” ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม
ด้วยพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประชาชนชาวไทยจึงได้รับประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านพลังงานจากพระราชดำริ และผลงานของพระองค์ยังเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาต่างชาติในเวทีนานาชาติอีกด้วย
#สืบสานพระราชปณิธานพระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย #รัชกาลที่9