ราคาน้ำมันดิบติดลบ

0
360
หลายท่านคงไม่เชื่อตาตัวเองว่าอ่านถูกหรือเปล่าว่า ราคาน้ำมันดิบติดลบ!
แต่นี่คือความจริงที่เกิดขึ้นแล้วในตลาดซื้อขายจริง (Physical Market) ของน้ำมันดิบบางชนิดและมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นกับน้ำมันดิบชนิดอื่น ๆ ที่ซื้อขายกันในตลาดล่วงหน้า (Future Market) ด้วยถ้าสถานการณ์ตลาดน้ำมันยังคงถูกกดดันจากปัจจัยลบสำคัญสองปัจจัยทั้งทางด้าน Demand และ Supply ที่เรียกว่า “แฝดสยอง” หรือ “Twin Shocks” ซึ่งก็คือความต้องการที่ลดลงอย่างรุนแรง (Demand Destruction) จากวิกฤติไวรัส COVID-19 และการจัดหาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างท่วมท้นจากวิกฤติสงครามราคาระหว่างซาอุดีอาระเบียกับรัสเซียจนกดดันราคาน้ำมันดิบลงมาอยู่ที่ระดับ 25-30 $/bbl.
วิกฤติทั้งสองนำไปสู่วิกฤติที่สาม คือปริมาณน้ำมันที่ล้นตลาดเกินความต้องการประมาณ 15-20 ล้านบาร์เรล/วัน จนสต๊อกน้ำมันดิบโลกเพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ไม่มีถังเก็บน้ำมันบนบกเพียงพอและราคาค่าเช่าถังเก็บน้ำมันพุ่งขึ้นสูงมากจึงมีการเช่าเรือบรรทุกน้ำมันขนาดยักษ์ (Super Tanker) หรือ Very Large Crude Carrier (VLCC) จำนวนมากมาเก็บน้ำมันดิบลอยลำอยู่ในทะเล
แต่ปัญหานี้ก็ไม่หมดไปตราบใดที่ปัจจัยลบ “แฝดสยอง” ยังดำรงอยู่ทำให้นักค้าน้ำมัน (Trader) และนักวิเคราะห์เชื่อว่าถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นภายในไม่กี่เดือนข้างหน้าถังเก็บน้ำมันจะเต็มหมดทั้งบนบกและในทะเล และราคาน้ำมันจะลดลงเหลือเพียงเลขตัวเดียว โดยเฉพาะน้ำมันดิบประเภท Shale Oil ที่ผลิตจากแหล่งชั้นหินดินดานทางตอนกลางของประเทศ (Mid-West)
แต่ถ้าไปดูการซื้อขายในตลาดที่มีการส่งมอบน้ำมันจริง (Physical Market) จะพบว่าไม่ต้องรอไปนานขนาดนั้นเพราะขณะนี้น้ำมันดิบบางชนิด บางคุณภาพก็มีการซื้อขายในราคาเป็นตัวเลขหลักเดียวอยู่แล้วเช่น Oklahoma Sour ราคา 5.75 $/bbl. , Nebraska Intermediate 8 $/bbl. และ Wyoming Sweet 3 $/bbl. เท่านั้น
ทั้งนี้ก็เพราะนอกจากความต้องการน้ำมันดิบเข้ากลั่นของโรงกลั่นน้ำมันจะลดลงเพราะพิษของ COVID-19 แล้วยังเป็นเพราะน้ำมันดิบบางแหล่งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งน้ำมันเช่นท่อส่งน้ำมัน หรือทางรถไฟออกสู่โรงกลั่นน้ำมันในแถบชายฝั่งของสหรัฐ เรียกว่าเป็นน้ำมันดิบที่ถูกปิดกั้น (landlocked crude) ดังนั้นราคาจึงยิ่งถูกลงไปอีก
น้ำมันดิบบางชนิดที่เป็นน้ำมันดิบคุณภาพต่ำ โดยเป็นน้ำมันดิบชนิดหนักและกำมะถันสูง (Heavy & Sour Crude) เหมาะสำหรับกลั่นเป็นยางมะตอยเอาไว้ทำถนน อย่างเช่น Wyoming Asphalt Sour ราคาขายผ่านการประมูลในกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีราคาติดลบ 19 เซนต์/บาร์เรล เปรียบเสมือนผู้ผลิตน้ำมันดิบต้องจ่ายเงินให้กับผู้ประมูลเพื่อกำจัดน้ำมันดิบนี้ออกไป
วิกฤติการณ์นี้ทำให้มีการเรียกร้องให้ผู้กำกับกิจการพลังงานของรัฐเทกซัส (Texas Regulator) ต้องเข้ามาแทรกแซงธุรกิจน้ำมันในรัฐเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 50 ปี โดยมีการพิจารณาว่าจะสั่งให้มีการลดการผลิตน้ำมันดิบลงหรือไม่ และในขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าได้มีการพูดคุยกับเลขาธิการกลุ่มโอเปกเรื่องการลดการผลิตด้วย
ซึ่งเรื่องนี้จะเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายรวมหัวทางการค้า หรือ Anti-Trust Law ของสหรัฐหรือไม่คงต้องตามดูกันต่อไปครับ!!!.

มนูญ ศิริวรรณ
จากบทความ “พลังงานรอบทิศ” ในนสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 9 เม.ย. 2563

สามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่ : https://bit.ly/2YA8y6e