ความหวังพลังงานสะอาดของโลกจาก “ฟาร์มกังหันลม”
นอกจากโซลาร์เซลล์ที่คนไทยรู้จักคุ้นเคยอยู่แล้ว ในช่วง 10 ปีหลังมานี้ ฟาร์มกังหันลมมีอัตราการขยายตัวค่อนข้างสูง และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นและต้นทุนที่ต่ำลง
Global Wind Energy Council : GWEC รายงานว่าในปี 2561 เพียงปีเดียว กำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมเพิ่มขึ้นประมาณ 51,900 เมกะวัตต์ และอุตสาหกรรมนี้ได้ก่อให้เกิดการจ้างงานราว 1.2 ล้านตำแหน่ง โดยประเทศที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมได้มากที่สุดในโลก 5 อันดับแรกประกอบด้วย
จีน 211,392 เมกะวัตต์
สหรัฐอเมริกา 96,665 เมกะวัตต์
เยอรมนี 59,311 เมกะวัตต์
อินเดีย 35,129 เมกะวัตต์
สเปน 23,494 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ สำนักงานพลังงานหมุนเวียนนานาชาติ (International Renewable Energy Agency : IRENA) ประเมินว่า ในปี 2593 ไฟฟ้าจากพลังงานลมจะคิดเป็นสัดส่วนกว่า 35% ของความต้องการไฟฟ้าทั่วโลก และจะก่อให้เกิดการจ้างงานกว่า 6 ล้านตำแหน่ง และช่วยลดอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ไปสูงถึงปีละ 6,200 ล้านตันทีเดียว
อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าเสียดายว่าประเทศไทยยังไม่ให้ความสำคัญกับพลังงานลมเหมือนนานาประเทศ แม้เทคโนโลยีได้ก้าวล้ำไปมากและต้นทุนก็ต่ำลงเรื่อย ๆ
ในแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP 2018) ซึ่งคณะรัฐมนตรีเพิ่งอนุมัติไปเมื่อเดือนตุลาคม 2563 ยังคงเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมเพียง 2,989 เมกะวัตต์ในปี พ.ศ. 2580 ซึ่งยังน้อยกว่าเป้าที่เคยวางไว้ในแผนเดิม (AEDP 2015) เสียอีก
ที่มา https://aeitfthai.org/article/12124.html
#ERSFellowship #เข้าใจเพื่อไปต่อ #พลังงานลม
แสดงความคิดเห็นได้ที่:
https://www.facebook.com/ERSFellowship/photos/a.299602063583142/1493067727569897/